โรงงานผลิตสครับ

          การขัดผิว เป็นขั้นตอนการดูแลผิวที่สาว ๆ อาจจะหลงลืมกันไป แต่การจะมีผิวที่ขาวกระจ่างใส และเนียนนุ่มได้นั้นนอกจากการใช้ครีมบำรุงผิวแล้ว การสครับผิวก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยนะคะ 

          ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะว่าสครับขัดผิวมีทั้งหมดกี่ประเภท? แล้วละประเภทต่างกันอย่างไร วันนี้ไวท์แคร์จะอธิบายให้ทราบนะคะ

สครับ (scrub) คือ การขัด หรือ การถู เพื่อทำความสะอาดผิว การสครับผิวจะช่วยในการขจัดสิ่งสกปรก ที่อุดตันตามรูขุมขน รวมทั้งเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ ที่เกาะอยู่บนบริเวณผิวหนังชั้นนอก ให้สามารถหลุดออกได้เร็วขึ้น จึงทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นและกลับมาเนียนนุ่มอีกครั้ง โรงงานผลิตสครับ รับผลิตสครับ

การแบ่งสครับขัดผิว สำหรับไวท์แคร์นั้น เราแบ่งสครับเป็น 3 หมวดดังนี้เพื่อความง่ายในการเข้าใจ  โรงงานผลิตสครับ รับผลิตสครับ

1. ลักษณะของเนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นการแบ่งตามลักษณะทางกายภาพที่เรามองเห็น ซึ่งประกอบด้วย 

  • สครับครีม เป็นสครับที่มีลักษณะคล้ายครีมบำรุงผิว มีส่วนประกอบของน้ำและน้ำมันจนเกิดขึ้นเป็นเนื้อครีม ภายในจะมีเม็ดสครับสำหรับขัดผิว โดยเม็ดสครับนั้นจะเป็นเมล็ดจากธรรมชาติหรือเมล็ดสังเคราะห์ จุดประสงค์หลักของสครับครีม คือ มอบความเนียนนุ่มเหมือนครีมบำรุงผิว พร้อมทั้งการขัดผิวควบคู่ไปด้วย  

ข้อดี

✅ สครับประเภทนี้จะอ่อนโยนนุ่มนวล เหมาะสำหรับผิวแห้งกร้านต้องการบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น

✅ เนื่องจากสครับครีมมีคุณสมบัติสเมือนการทาโลชั่นพร้อมไปกับการอาบน้ำ​

ข้อด้อย

🚫 ให้ความรู้สึกเหมือนอาบน้ำไม่สะอาด เพราะจะมีลักษณะเหมือนฟิลม์เคลือบอยู่บนผิว


  • สครับเจล เป็นสครับที่มีลักษณะเป็นเนื้อใสโปร่งแสงคล้ายเจลลี่โดยมีเม็ดสครับผสมอยู่  นิยมทำในรูปแบบมีฟอง แต่สามารถพบได้บ้างในลักษณะไม่มีฟอง เนื้อจากสครับเจลนิยมทำเป็นรูปแบบของเจลอาบน้ำชนิดมีเมล็ดขัด 2in1 

ข้อดี

✅ สครับประเภทเจลสามารถให้เฉดสีทีสวยงาม โปร่งใส

✅ สามารถใส่เม็ดสครับเพื่อให้มองเห็นลูกเล่นที่หลากหลาย ต่างจากสครับครีมที่ทึบแสง

✅ สครับเจลเหมาะสำหรับคนที่ผิวมันไม่ต้องการเพิ่มความลื่น หรือความมันให้กับผิวมากนัก

ข้อด้อย

🚫 หากเป็นคนที่ผิวแห้งมาก ๆ สครับเจลอาจจะไม่ตอบโจทย์

🚫 เนื่องจากไม่มีปริมาณน้ำมันในสูตร หากใส่น้ำมันมากเกินไปสครับเจลจะไม่ใสและขุ่นได้


  • สครับโคลน เป็นสครับที่มีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลวมีหน้าตาเหมือนโคลน แต่มีเม็ดสครับผสมอยู่ จุดประสงค์หลักของสครับโคลนคือ ดีท็อกซ์ผิว ดูดซับความมัน และนิยมใช้ขัดผิวควบคู่ไปกับการพอกผิว 

ข้อดี

✅ สครับประเภทนี้ เหมาะสำหรับคนที่ผิวมันมาก ๆ หรือเป็นสิวบนร่างกาย

✅ ต้องการดูดซับความมันออกไปโดยใช้โคลน เช่น kaolin Jejuclay

 

ข้อด้อย

🚫 สครับโคลนจะไม่สามารถละลายน้ำได้สมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เลอะห้องน้ำเล็กน้อย (เหมือนเราล้างโคลนที่เท้าในห้องน้ำ)

🚫 ไม่เหมาะสำหรับผิวที่แห้งมากเพราะสครับโคลนจะดูดซับความมันที่รักษาความชุ่มชื้นบนผิวออกไปด้วย​

  • สครับน้ำมัน เป็นสครับที่มีลักษณะในรูปแบบใส และแบบขุ่น มีส่วนผสมของน้ำมันมากกว่า 70% ในสูตร ซึ่งนิยมใช้น้ำมันที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวเป็นส่วมผสม เช่นน้ำมันอาร์แกนออย โรสฮิปออยล์  โดยหลังการสครับและล้างออกจะทิ้งความลื่นความนุ่มเคลือบไว้บนผิว เหมือนกับการสปาหรือการนวดผิว นิยมมากสำหรับยุโรป หรือโซนพื้นที่ ที่มีอากาศหนาวเย็นและผิวแห้งแตกง่าย

ข้อดี

✅ สครับประเภทนี้สามารถใช้แทนครีมบำรุงผิวได้โดยไม่ต้องทาโลชั่นซ้ำภายหลังการสครับ

✅ เหมาะสำหรับผิวที่แห้งแตกเป็นอย่างมาก

 

 

ข้อด้อย

🚫 ปริมาณน้ำมันที่มากในสูตรสครับ อาจทิ้งคราบบนพื้นห้องน้ำและทำให้พื้นห้องน้ำจะลื่นจะอันตรายสำหรับผู้ใช้งาน (ควรขัดพื้น หรือสครับในอ่าง)

🚫 นอกจากนี้ สำหรับเอเชียหรือพื้นที่ ที่มีอากาศร้อน การใช้สครับน้ำมันสามารถก่อความรู้สึกเหนอะผิวและไม่สบายตัวได้​

  • สครับสมุนไพร เป็นสครับจากเนื้อสมุนไพร ที่ไม่ว่าจะมากจาก สมุนไพรสด หรือสมุนไพรที่ผ่านการอบแห้ง ซึ่งเม็ดสครับที่ได้จากเนื้อสมุนไพรนั้นจะละเอียดและเล็กมาก ๆ  ทำให้ขัดผิวได้อย่างอ่อนโยน ขัดได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย 

(เนื่องด้วยสครับสมุนไพรเป็นสครับที่ละเอียดมากจึงนิยมนำมาผสมกับเม็ดเกลือที่มีขนาดพอดีหรือกลมมน เพื่อให้สครับขัดได้อย่างเหมาะสม ไม่ละอียดจนเกินไปและไม่หยาบเกินไป)

ข้อดี

✅ สครับประเภทนี้คือเนื้อสครับทำจากสมุนไพร

✅ มีฤทธิ์ในการบำรุงและรักษาผิวพรรณในเม็ดสครับโดยตรง

✅ ต่างจากสครับเปลือกไม้หรือ PE ที่มีแค่ฤทธิ์ในการขัด ​

ข้อด้อย

🚫 ผลิตภัณฑ์จะมีสีที่จำกัด เนื่องจากสมุนไพร เช่น ขมิ้น และไพล ให้สีเหลือง จึงไม่สามารถแต่งสีสครับให้เป็นสีสันได้มากมายนัก

🚫 สมุนไพรมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่สามารถจะปรุงแต่งกลิ่นให้เป็นกลิ่นน้ำหอมหรือกลิ่นที่ต้องการได้ 100% 

2. ลักษณะของเม็ดสครับ เป็นการแบ่งตามที่มาและชนิดของเม็ดสครับ ซึ่งเม็ดสครับแต่ละแบบมีผลต่อความรู้สึกในการขัดผิวที่แตกต่างกันออกไป โดยเม็ดใหญ่เหมาะสำหรับสครับผิวที่หยาบกร้าน หรือจุดที่ทนต่อแรงขีดข่วน และเม็ดเล็กเหมาะสำหรับสครับผิวที่อ่อนโยนเปราะบางเช่นผิวหน้า ข้อพับ ขาหนีบเป็นต้น

  • เมล็ดสครับจากเปลือกไม้ และผลไม้ เช่น
    • เมล็ดกาแฟ เมล็ดสีน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นเฉพาะตัว รูปทรงเป็นเม็ดเหลี่ยมๆ เล็ก ๆ ที่มีความหยาบเหมือนเกลือและทราย กากกาแฟเป็นสครับที่ผลิตมาจากธรรมชาติ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังน้อยกว่าสครับผิวที่ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการทางเคมี ขนาดเม็ดที่หลากหลายขึ้นอยู่กับกระบวนการบดเมล็ด 
    • เมล็ดสตรอเบอร์รี่ มีลักษณะทรงรีเล็ก ๆ เมล็ดแข็ง มีสีน้ำตาล มีความหยาบเหมาะสำหรับใช้ขัดผิวได้ดี แต่ที่นิยมมากที่สุดคือใช้เพื่อตกแต่งเนื้อผลิตภัณฑ์ หรือใช้ควบคู่สครับอื่น เนื่องจากเมล็ดอาจใหญ่เกินไปไม่เหมาะแก่การสครับเพียงลำพังชนิดเดียว
    • เมล็ดแอปริคอต มีลักษณะทรงกลมรี สีน้ำตาล ผ่านการบดละเอียดเป็นเมล็ดสครับขนาดเล็ก ไม่บาดผิว สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
    • เมล็ดสครับมะกอก สีน้ำตาลอ่อน (อ่อนกว่าแอปริคอต) เป็นเม็ดสครับธรรมชาติ จากเมล็ดมะกอกที่นำมาบดกลมจนละเอียด เหมาะสำหรับใช้ขัดผิวหน้าและผิวกาย
    • เมล็ดสครับข้าวโพด เป็นการนำเมล็ดจากแกนข้าวโพดมาบด  โดยขนาดของสครับจะละเอียด การระคายเคืองผิวเกิดขึ้นได้น้อย และให้ประสิทธิภาพที่ดีสครับผิวที่ต้องการการขัดแบบอ่อนโยน
  • เมล็ดพลาสติก หรือพลาสติกเคลือบ (Micro bead) มีรูปทรงและมีสีสันที่หลากหลาย แต่ด้วยปัญหาของมลภาวะทางท้องทะเล ที่เม็ดสครับไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงมีการแบนและมีกฎหมายห้ามผลิตรวมถึงใช้เม็ดสครับจากพลาสติกในเครื่องสำอาง
โรงงานผลิตสครับสมุนไพร
  • เกลือ เป็นเม็ดสครับที่มีลักษณะกลมและมีความละเอียดมาก มีขอบค่อนข้างคมจึงไม่เหมาะกับผิวหน้า แต่เหมาะกับการขัดผิวบริเวณที่หนาและหยาบกร้าน เช่น ฝ่าเท้า หัวเข่า ข้อศอก หรือผิวกายมากกว่า (แต่ไวท์แคร์ มีเกลือชนิดพิเศษที่ผ่านกระบวนการทำให้เม็ดกลมมน สามารถใช้ในการขัดผิวบริเวณที่อ่อนโยนได้ โดยไม่บาดและทำลายผิว)
  • น้ำตาล  เป็นเม็ดสครับมีลักษณะเหลี่ยม เม็ดใหญ่และมีความคมกว่าเกลือ มีแรงเสียดสีมากกว่า นำไปใช้สครับในส่วนของผิวหนังที่ด้านเป็นพิเศษ หรือต้องการให้ผิวหนังบริเวณที่มีความด้านมากนั้นหลุดออกได้ง่าย จุดเด่นของสครับน้ำตาลเมื่ออยู่ในผลิตภัณฑ์ใด ๆ จะมอบเนื้อสัมผัสหนืด ๆ หนึบคล้ายน้ำผึ้ง เนื่องจากเกิดจากการละลายของน้ำตาลในสูตร
โรงงานผลิตสครับสมุนไพร
  • ผงสมุนไพร เช่น ขมิ้นชัน, มะหาด, ทานาคา, ไพล, ว่านนางคำ เป็นสมุนไพรจากธรรมชาติที่นำมาบดละเอียดจนกลายเป็นผง
โรงงานผลิตสครับสมุนไพร
  • โจโจบาบีดส์ เป็นเม็ดสครับมีลักษณะรูปทรง และเฉดสีได้หลากหลาย  สามารถเนรมิตหน้าตาสครับออกมาได้มากมายใกล้เคียงกับไมโครบีดส์พลาสติก แต่มีความอ่อนอ่อนโอนมากกว่าและไม่ทิ้งรอยขีดข่วนไว้บนผิว ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต่างจากเม็ดสครับ PE ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

3. การใช้งานของสครับ เป็นการแบ่งตามการใช้งานของสครับแต่ละประเภท 

  • สครับแบบมีฟอง เป็นสครับที่เมื่อสัมผัสเข้ากับน้ำแล้วถูลงบนร่างกายจะเกิดฟองคล้ายกับครีมอาบน้ำเพียงต่างกันที่มีเม็ดสครับอยู่ในตัว สครับประเภทนี้สามารถใช้แทนครีมอาบน้ำได้ แต่ไม่เหมาะกับการพอกไว้บนผิวเนื่องจากมีชำระล้าง หากพอกไว้นานเกินไป จะทำให้ผิวแห้งตึงได้
  • สครับแบบไม่มีฟอง มี 2 แบบด้วยกัน คือ 
    • สครับแบบเคลือบผิว ซึ่งจะเหมือนสครับน้ำมันหรือสครับครีม
    • สครับแบบไม่เคลือบผิว จะเหมือนกับสครับเจล เป็นต้น
  • สครับให้ความรู้สึกอุ่นผิว เป็นสครับที่มีส่วนผสมของสารสกัดวานิลาหรือสารสกัดจากพืชที่ให้ความรู้สึกอุ่นแก่ผิว เหมาะสำหรับใช้ควบคู่กับทรีตเมนต์ที่ลดการสะสมไขมันใต้ผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  • สครับให้ความรู้สึกเย็น มักเป็นสครับที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเมนทอล ซึ่งช่วยกระตุ้นความรู้สึกเย็น มอบความสดชื่นให้แก่ผิวที่อ่อนล้าลดปัญหาการระคายเคืองและอักเสบของผิวที่พบปัญหาผื่นคัน

4. กระบวนการผลิตสครับ